การเรียนหลักสูตร
Wellness & Healthcare Business Opportunity Program for Executives (WHB) รุ่นที่ 5
วันที่ 7 ก.พ.2568
ณ ห้องมณฑาทิพย์ 1 ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2568 เวลา 13.30 น. หลักสูตร Wellness & Healthcare Business Opportunity Program for Executives (WHB) รุ่นที่ 5 ได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์สมอาจ วงษ์ขมทอง ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรฯ มาบรรยายหัวข้อ “Navigating the Shift of Thailand: From Medical Tourism to Wellness and a Global Wellness Destination” ท่านได้กล่าวถึงการยกระดับการบริการทางการแพทย์ของประเทศให้เป็นจุดหมายปลายทางด้านการบริการสุขภาพและการแพทย์ในระดับโลก (Global Wellness and Healthcare Destination) โรงพยาบาลจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐานการรักษาระดับสากลจาก JCI (Joint Commission International) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการรักษาพยาบาล นอกจากนี้ การบริการสุขภาพและการแพทย์ยังต้องประกอบไปด้วยหลัก 5G ได้แก่ (1) Good Doctor แพทย์เชี่ยวชาญ (2) Good Technology เครื่องมือทันสมัย (3) Good Nurse พยาบาลด้วยใจ (4) Good Services ใส่ใจบริการ (5) Good Referral System ระบบการส่งต่อที่ดี และท่านได้กล่าวต่อว่าการเป็น Medical Hub ในประเทศไทยเป็นตัวกระตุ้นให้โรงพยาบาลในประเทศไทยพัฒนาตัวเองในทุกๆ ด้าน ทั้งในด้านความสามารถในการรักษาพยาบาลและคุณภาพการบริการให้เท่าเทียมกับโรงพยาบาลชั้นนำในต่างประเทศ อีกทั้งยังส่งผลดีต่อผลประกอบการของโรงพยาบาล ทำรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย และภายหลังสถานการณ์ Covid-19 ทำให้คนไทยและคนทั่วโลกหันมาสนใจการดูแลสุขภาพ (Wellness) มากขึ้น และพิสูจน์ให้เห็นว่าธุรกิจสุขภาพเป็นธุรกิจที่จำเป็นและยั่งยืน ท่านได้กล่าวต่อถึงโอกาสธุรกิจเวลเนสในประเทศไทยในปี 2025 ได้แก่ (1) Wellness Clinic เป็นการรวมการรักษาพยาบาลกับการป้องกันและส่งเสริมสุขภาพเข้าด้วยกัน ด้วยพื้นฐานที่เป็นวิทยาศาสตร์ (2) Wellness Retreat & Wellness Resorts ใช้วิธีการที่เป็นองค์รวมในการฟื้นฟูสุขภาพ (3) Wellness Tourism (4) Wellness Products (5) Wellness Hotel & Wellness Real Estate และท่านได้สรุป Key for Individual Wellness มี 3 อย่างได้แก่ (1) สุขภาพดีทั้งกายและใจ ประกอบไปด้วย Daily exercise, Balanced nutrition, Good sleep, Mindfulness, Avoiding of Risk Factors และRegular Health Checkup (2) มีสัมพันธภาพที่ดีกับบุคคลรอบตัว (3) ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในระดับหนึ่ง



เวลา 15.30 น. หลักสูตร WHB รุ่นที่ 5 ได้รับเกียรติจาก คุณสมฤดี จิตรจง อดีตรองผู้ว่าการด้านการตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มาบรรยายในหัวข้อ “การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ท่านได้กล่าวถึง ทิศทางแผนกลยุทธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปี 2568 ได้แก่ 1. Spending per trip เจาะกลุ่มคุณภาพ ขายสินค้าและบริการที่ผ่านเกณฑ์ยั่งยืน 2. Branding มุ่งสู่ความยั่งยืน ตอกย้ำภาพลักษณ์ 4 แง่มุม ได้แก่ Soft power, Hygiene, Safety, Environmental concern 3. Shape supply สร้างสรรค์สินค้ามูลค่าเพิ่มและมีมาตรฐานความยั่งยืน ร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวที่สำคัญเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน 4. Personalization คัดเลือก ออกแบบ เสนอขายสินค้าและบริการพื้นฐานรวมทั้งมีการวิเคราะห์ความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า 5. HPO พัฒนาข้อมูลและระบบเพื่อรองรับการจัดเก็บข้อมูลลูกค้า นักท่องเที่ยว และผลิตภัณฑ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ทำงานด้วยเทคโนโลยี สร้าง Digital Workflow/Process Digitalization บูรณาการกับพันธมิตรบนพื้นฐานธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมกันนี้ท่านได้กล่าวถึงทิศทางการส่งเสริมตลาดต่างประเทศ ปี 2568 โดยเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีรายได้ $USD 60,000/คน/ปี, กลุ่มสุขภาพและความงาม, กลุ่มกีฬา, กลุ่มฮันนีมูนและแต่งงาน, กลุ่มนิยมความหรูหรา และกลุ่ม Green Tourism เพื่อกระตุ้นความต้องการเดินทางผ่านแคมเปญ Amazing Thailand โดยเน้นการสอดแทรกเอกลักษณ์ความเป็นไทยที่แตกต่าง ผนวกกับ Soft Power ที่มีศักยภาพของไทย สุขอนามัย ความปลอดภัย และการใส่ใจสิ่งแวดล้อม และท่านได้กล่าวต่อว่าทิศทางการส่งเสริมตลาดในประเทศ ปี 2568 โดยเน้นกลุ่มผู้หญิง, กลุ่ม Millennial หรือ Gen-Y, กลุ่มผู้สูงอายุ, กลุ่มผู้มีรายได้สูง, กลุ่ม Multi-Generation Family เพื่อกระตุ้นให้สามารถตัดสินใจเดินทางได้ทันที ผ่านแคมเปญ “สุขทันที…ที่เที่ยวไทย” ผ่านการเน้นย้ำจุดขายเรื่องราว “เสน่ห์ไทย” ของแต่ละพื้นที่ ผลักดันให้เกิดการกระจายการเดินทางจากเมืองหลักไปยังเมืองน่าเที่ยว ในโอกาสนี้ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร. นายแพทย์สมอาจ วงษ์ขมทอง ประธานคณะกรรมการบริหารหลักสูตรฯ ได้มอบของที่ระลึกให้กับท่านวิทยากร คุณสมฤดี จิตรจง ณ ห้องมณฑาทิพย์ 1 ชั้น 1 โรงแรมอนันตรา สยาม กรุงเทพฯ



เวลา 17.00 น. หลักสูตร WHB รุ่นที่ 5 ได้รับเกียรติจาก แพทย์หญิงณัฏฐ์นรี บุญศิรภัสสร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์ป้องกัน BDMS Wellness Clinic มาบรรยายในหัวข้อ “Health Brings Wealth” ท่านได้กล่าวถึง Delay Aging Process เมื่อมนุษย์แก่ลงภูมิต้านทานทำงานได้น้อยลง กล้ามเนื้อลดลง ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดหัวใจและการทำงานของหัวใจลดลง ขนาดของสมองลดลง รวมทั้งการดูดซึมที่ลดลงด้วย โดยส่วนใหญ่พบว่าร่างกายเริ่มแก่ลงเมื่อมนุษย์อายุ 30 ปีเป็นต้นไป และท่านได้กล่าวถึงเวชศาสตร์วิถีชีวิต (Lifestyle Medicine) คือ การบูรณาการแนวทางเวชศาสตร์ปฏิบัติด้านวิถีชีวิตเข้ากับหลักการของการแพทย์ปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 6 วิธี ดังนี้ (1) รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม ควรเลือกเลือกรับประทานอาหารจากผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืช สมุนไพร น้ำเปล่า และควรเลี่ยงเครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาลสูง เนื้อแปรรูป เนื้อแดง และอาหารแปรรูป (2) เคลื่อนไหวร่างกายและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จากงานวิจัยพบว่าการเดินเพื่อให้มีสุขภาพดีควรเดินวันละ 8,000 – 11,000 ก้าว/วัน (3) จัดการความเครียด หากิจกรรมผ่อนคลายความเครียด เช่น ฟังดนตรี ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ เป็นต้น (4) นอนหลับให้ดีมีคุณภาพ การนอนหลับมีฮอร์โมนสำคัญเข้ามาเกี่ยวข้องหลายชนิด ดังต่อไปนี้ (1) เมลาโทนิน (Melatonin) ฮอร์โมนแห่งการนอน (2) โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ได้ชื่อว่าเป็น “ฮอร์โมนชะลอความแก่” (3) คอร์ติซอล (Cortisol) ร่างกายเริ่มผลิตฮอร์โมนนี้ในตอนเช้า หลั่งออกมาสูงสุดในช่วง 7 – 9 โมงเช้า (4) ดีเอชอีเอ (DHEA : Dehydroepiandrosterone) เป็นฮอร์โมนต้านความเครียด (anti-stress hormone) สำหรับผู้ใหญ่ควรนอน 7 – 9 ชั่วโมง หรืออย่างน้อยวันละ 6 ชั่วโมง โกรทฮอร์โมนถูกหลั่งเมื่อหลับลึก (deep sleep) และถูกหลั่งมากที่สุดในวงจรแรกของการนอนหลับ คือช่วง 5 ทุ่ม ถึง ตี 1 (5) หลีกเลี่ยงสารอันตราย เช่น บุหรี่ แอลกอฮอล์ และมลภาวะทางอากาศ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งถูกจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1 การสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป รวมทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังและการเสียชีวิต (6) มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมแม้เพียงระยะสั้นส่งผลดีต่อสุขภาพ โดยจะกระตุ้นการปล่อยสารสื่อประสาทที่ให้ความรู้สึกดี ได้แก่ Dopamine, Oxytocin, Serotonin, และ Endorphins (DOSE) ซึ่งส่งผลทางบวกต่ออารมณ์ ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ นายแพท


